โดยทั่วไปเครื่องสำอางที่ใช้กันเป็นประจำทุกวันควรได้รับการฆ่าเชื้อทำความสะอาดทุกๆ1-2สัปดาห์ โดยเฉพาะการใช้เครื่องสำอางร่วมกับผู้อื่น แม้กระทั่งแปรงแต่งหน้าจำเป็นต้องทำความสะอาดและฆ่าเชื้อเพราะการมช้เครื่องสำอางเป็นการสัมผัสกับบริเวณผิวหน้าโดยตรง อาจก่อให้เกิดสิ่งสกปรก รวมถึงเชื้อโรคที่สะสม การฆ่าเชื้ออย่างง่ายที่สุดก็คือ “แอลกอฮอล์” โดยจะต้องมีความเข้มข้นที่ 70% ขึ้นไป นำมาเทใส่ขวดสเปรย์ จากนั้นฉีดลงไปบนอุปกรณ์หรือเครื่องสำอางและทิ้งไว้ให้แห้ง และที่สำคัญอย่าลืมล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ทุกครั้งก่อนแต่งหน้า
1.ลิปสติก
วิธีที่ง่ายที่สุดคือการฉีดแอลกอฮอล์ลงบนเนื้อลิปสติกและเช็ดออกด้วยกระดาษทิชชูที่สะอาด หรือถ้าจะให้มั่นใจมากขึ้น สำหรับลิปสติกแบบแท่ง Lady MIRROR สามารถใช้มีดที่เช็ดด้วยแอลกอฮอล์หรือผ่านความร้อนของน้ำเดือดมาปาดผิวด้านปลายแท่งออกไป ส่วนลิปเนื้อลิควิดหรือที่สาวๆ นิยมเรียกกันว่าลิปแบบจิ้มจุ่ม อันนี้ค่อนข้างทำให้ปลอดเชื้อยากสักนิดด้วยลักษณะของตัวพู่กันที่ใช้ทาต้องแช่อยู่ในหลอดตลอดเวลา ขอแนะนำว่าไม่ควรแชร์ลิปแบบนี้กับใครโดยเด็ดขาด และควรหยุดใช้ระหว่างที่คุณสาวๆ ป่วย และเลิกใช้ทันทีที่สีและกลิ่นของลิปเริ่มเปลี่ยนไปจากเดิม
2.เมคอัพเนื้อลิควิดและเนื้อครีม
เครื่องสำอางประเภทนี้เป็นอะไรที่หลายๆ คนยังใช้กันอย่างไม่ถูกต้อง อย่างเช่น คอนซีลเลอร์เนื้อครีม ครีมบลัช หรือเจลอายไลเนอร์ ผมมักเห็นสาวๆ ใช้นิ้วหรือแปรงแตะลงไปในตลับของผลิตภัณฑ์โดยตรงเลยซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้เชื้อโรคหรือแบคทีเรียจากแปรงหรือนิ้วมือของเราเข้าไปอยู่ตัวผลิตภัณฑ์และพวกมันสามารถเจริญเติบโตออกลูกออกหลานได้ดีเพราะผลิตภัณฑ์พวกนี้มีความชื้น วิธีที่ถูกคือควรใช้ไม้พายเล็กๆ ที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์แล้ว จะเป็นสเตนเลสหรือพลาสติกก็ได้ ตักเนื้อผลิตภัณฑ์ออกมา แล้วจึงใช้แปรงหรือนิ้วมือแตะจากส่วนที่แบ่งออกมาเท่านั้น ข้อดีอีกอย่างของวิธีนี้คือเครื่องสำอางของเราจะมีอายุการใช้งานที่นานขึ้น เพราะสะอาดและปลอดจากเชื้อโรคที่จะทำให้ส่วนผสมของเครื่องสำอางเปลี่ยนแปลงไป สำหรับรองพื้นแบบลิควิดที่มาเป็นขวดแต่ไม่มีฝาปั๊ม เราสามารถฉีดแอลกอฮอล์บริเวณรอบๆ ฝาขวดได้ มาสคาร่าก็เป็นเครื่องสำอางที่ควรระวังมากๆ อีกชิ้นหนึ่งเพราะใช้ใกล้ชิดกับดวงตา เมื่อถึงเวลาอันควรหรือวันหมดอายุ ผมแนะนำว่าควรที่จะทิ้งมากกว่าที่จะพยายามฆ่าเชื้อมาสคาร่าที่ใช้มานานแล้ว เพราะอาจะทำให้เป็นโรคตาแดง ระคายเคือง และเกิดการอักเสบที่ทำให้ตาบวมได้
3.เครื่องสำอางแบบผงหรือพาวเดอร์
สำหรับเมคอัพแบบผงหรือพาวเดอร์ เช่น อายแชโดว์ แป้งรองพื้นอัดแข็ง บลัชออนแบบพาวเดอร์ สามารถปาดผิวด้านบนออกด้วยมีดที่ผ่านการฆ่าเชื้อและใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ฉีดบางๆ และรอให้แห้ง ถ้าเปรียบเทียบกับเครื่องสำอางแบบลิควิดหรือแบบครีม เมคอัพแบบผงหรือพาวเดอร์นี้มีโอกาสการติดเชื้อต่ำกว่า เพราะไม่มีความชื้นเข้ามาเกี่ยวข้องมากนัก ยกเว้นสาวๆ ที่ชอบเติมแป้งขณะที่ยังมีเหงื่อซึมอยู่บนใบหน้า
4.ดินสอต่างๆ
การดูแลรักษาให้ดินสอต่างๆ สะอาดปลอดเชื้อนั้นทำได้ง่ายมากๆ เพียงเหลาดินสอทุกครั้งก่อนใช้เท่านั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นดินสอเขียนขอบปากหรืออายไลเนอร์แบบดินสอ สำหรับอายไลเนอร์ที่เป็นไส้แบบหมุนๆ เราสามารถหักส่วนปลายทิ้งหรือจะใช้แอลกอฮอล์ฉีดและรอให้แห้งก่อนนำมาใช้ก็ได้
5.แปรงและอุปกรณ์แต่งหน้า
การทำความสะอาดแปรงและอุปกรณ์แต่งหน้านอกจากจะดีต่อสุขภาพอนามัยของเราแล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์เหล่านั้นด้วย เพราะขนแปรงหรือฟองน้ำที่ได้รับการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอจะอ่อนนุ่มอยู่ทรงและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สำหรับที่แต่งเฉพาะใบหน้าของตัวเอง ไม่ได้ใช้อุปกรณ์ร่วมกับคนอื่น ขอแนะนำให้ทำความสะอาดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยจะใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแปรงโดยเฉพาะหรือใช้สบู่เหลวอ่อนๆ ที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียและล้างออกด้วยน้ำสะอาด
เห็นมั้ยว่าการทำให้เครื่องสำอางและอุปกรณ์แต่งหน้าของเรา “ปลอดเชื้อ” ไม่ใช่เรื่องยากเลย ถ้าหมั่นทำเป็นประจำจนเป็นนิสัย รับรองว่าจะติดใจในความสะอาดสะอ้านและสุขอนามัยที่ดีขึ้นของตัวเอง ทั้งสวยทั้งปลอดภัยสไตล์สาวๆยังไงละ.