แอลกอฮอล์ที่ใช้สำหรับฆ่าเชื้อโรคโดยทั่วไปมีกี่ชนิด?
แอลกอฮอล์ที่ใช้สำหรับฆ่าเชื้อโรคโดยทั่วไปมี2ชนิดคือ เอทิลแอลกอฮอล์(ethyl alcohol)และไอโซโพรพิล แอลกอฮฮล์(isopropyl alcohol) แอลกอฮอล์ทั้ง 2 ชนิดเป็นของเหลวใส ไม่มีสีระเหยได้ง่ายที่อุณหภูมิห้อง แอลกอฮอล์มีฤทธิ์ในการทำลายเชื้อแบคทีเรีย เชื้อวัณโรค เชื้อราและเชื้อไวรัส โดยทั่วไปมีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์อยู่ที่ 70-90%
แอลกอฮอล์ 70% คือ
ถือเป็น “ยาสามัญประจำบ้านสามารถฆ่าเชื้อโรคได้” มีขายตามร้านทั่วไปได้และต้องผ่านการรับรองจาก อย. แต่ถ้าเป็นแอลกอฮอล์ 70% ที่มีส่วนผสมของ Chlorhexidine อันนี้ก็เป็น”ยา” เช่นกัน เพียงแต่เป็นที่ยมใช้ในห้องผ่าตัด ทั้งจำต้องผ่านการรับรองจาก อย. ในระดับเข็มงวดกว่ายาสามัญประจำบ้าน
อย่างไรก็ตาม สำหรับประเภทแอลกอฮอล์ 70% และมีส่วนผสมของ Chlorhexidine จะออกฤทธิ์เร็ว 15 วินาทีปกป้องได้นาน 16 ชม. ฆ่าได้ทั้งเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา แห้งเร็วไม่เหนียวมือ บางยี่ห้อมีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์
แอลกอฮอล์ 95% คือ
สารละลายที่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ 95 ส่วน(95%)และน้ำ 5ส่วน(5%) โดยปริมาตร ทำให้ แอลกกอฮอล์ 95% มีสรรพคุณ ดังนี้
• เป็นตัวทำละลายของสารเคมีที่ใช้ในห้องทดลอง/ห้องปฏิบัติการ
• เช็ดทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในเครื่องมือ อุปกรณ์ ภาชนะต่างๆ
• เช็ดทำความสะอาดกระจกที่มีคราบสกปรก คราบไขมัน
• นำไปประยุกต์ใช้ฆ่าเชื้อโรคและแมลงบางชนิดในสวนผลไม้
• ใช้เพิ่มค่าออกเทน (Octane ส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพน้ำมันเบ็นซิน)
• นำมาเจือจางกับน้ำและใช้ทาผิวหนัง เพื่อบรรเทาอาการคันจากยุงกัด
เลือกใช้แบบไหน ถึงจะปลอดภัยมากที่สุด
ความเข้มขันของแอลกอฮอล์ควรใช้ให้เพมาะสม ควรเลือกใช้ที่ 70% ก็เพียงพอต่อการฆ่าเชื้อโรคได้แล้ว หากมีความเข้มข้นสูงถึง 95% ปริมาณแอลกอฮฮล์ก็จะสูงมาก และระเหยรวดเร็วมากกว่า การซึมผ่านผนังเซลล์จะไม่ดี ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองและส่งผลให้เกิดอาการมือแห้งแตกได้